Last updated: 11 พ.ย. 2568 | 25 จำนวนผู้เข้าชม |
จากเกือบล้ม…สู่กลับมาปัง เจ้าของโรงงานแชร์วิธีบริหารเงินทุนแบบไม่มโน
พูดกันตรงๆ ถ้าไม่เคยเจ็บเรื่องเงินทุน คุณจะไม่มีทางเข้าใจเลยว่า ธุรกิจโรงงานมันเหนื่อยแค่ไหน
ขอเล่าเรื่องของ “คุณต้น” เจ้าของโรงงานผลิตขนาดเล็ก-กลางในกรุงเทพฯ–ปริมณฑล ที่เคยเกือบล้มเพราะเรื่องเงินหมุน ก่อนจะฟื้นกลับมาปังอีกครั้ง
เงินทุนหมุนเวียน – เรื่องที่เจ้าของโรงงานมักพลาด
ตอนแรกคุณต้นมีออเดอร์เข้ามาเป็นว่าเล่น แต่ปัญหาเริ่มจาก เงินหมุนไม่พอ
ลูกค้าขอเครดิต 45 วัน แต่ซัพพลายเออร์ต้องจ่ายภายใน 15 วัน
และเงินหมุนในบัญชีจริง ๆ มีแค่รอบเดียวต่อเดือน
ผลลัพธ์?
เครื่องจักรหยุดชะงัก พนักงานว่างงานบ้างบางวัน และออเดอร์ลูกค้าต้องล่าช้า
คุณต้นเล่าให้ผมฟังว่า “เจ็บแบบที่ไม่คิดว่าจะเจ็บได้…กำไรเยอะแต่เงินสดไม่พอหมุน”
นี่คือบทเรียนแรก: กำไรไม่ได้หมายความว่าเงินจะเหลือ
โรงงานต้องมีเงินหมุนพอสำหรับ รอบการผลิต + วัตถุดิบ + เงินกันหายใจ
เริ่มต้นธุรกิจ – เงินทุนต้องเตรียมให้รอบ
คุณต้นเล่าอีกเรื่องหนึ่งตอนที่เริ่มโรงงานใหม่ ๆ
เขาเริ่มจากเงินทุนเพียง 500,000 บาท ซื้อเครื่องจักรมือสอง วัตถุดิบก้อนแรก และค่าแรงบางส่วน
แต่เขาไม่เคยคิดถึงว่า ออเดอร์เข้ามาแล้วเงินสดไม่พอซื้อวัตถุดิบรอบถัดไป
ผลคือ: ต้องชะลอการผลิตหลายครั้ง และเสียโอกาสให้คู่แข่ง
บทเรียนที่สอง: เงินทุนเริ่มต้นต้องเผื่อเงินหมุนอย่างน้อย 2–3 รอบการผลิต
ไม่ใช่แค่ซื้อเครื่องจักรแล้วคิดว่าพอ
การซื้อสินค้า–สต็อก–เงินทุนหมุนรอบ
โรงงานของคุณต้นยังต้องรับวัตถุดิบหลากหลายประเภท
บางตัวสั่งล่วงหน้า 1–2 เดือน บางตัวสั่งเดือนต่อเดือน
และราคามักขึ้นลงไม่แน่นอน
คุณต้นเคยพลาดสั่งวัตถุดิบ “เต็มที่” ทั้งที่ยังไม่ได้ขายออก ทำให้เงินจม
และมีรอบที่ต้องซื้อสินค้าเพิ่มฉุกเฉิน ซึ่งบวกดอกเบี้ยเข้าไปอีก
บทเรียนที่สาม: การจัดสต็อกต้องคิดถึง Cash Flow
ไม่ใช่แค่ต้องการสต็อกให้พอผลิต แต่ต้องคิดว่าเงินที่จมอยู่ในสต็อกจะกระทบเงินหมุนรอบอื่นหรือไม่
เงินทุนธุรกิจผลิต/อุตสาหกรรม – ความเจ็บจริงของโรงงาน SME
เรื่องจริงที่สุดคือการเจอบางเดือนที่ลูกค้าชำระช้า 1–2 รอบ
โรงงานต้องจ่ายค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ค่าไฟ และซ่อมบำรุงเครื่องจักรพร้อมกัน
คุณต้นเคยเล่าว่า “ตอนนั้นแทบล้มทั้งตัว แต่ไม่มีใครเข้าใจเรา เพราะกำไรในบัญชียังดีอยู่เลย”
นี่คือจุดที่เขาเริ่มมองหาพาร์ทเนอร์ด้านเงินทุนธุรกิจเฉพาะทาง
เพราะธนาคารทั่วไปใช้เวลานาน และขอหลักทรัพย์เยอะ
แต่เขาต้องการ เงินหมุนไว, ใช้สัญญาออเดอร์เป็นหลัก, อนุมัติเร็ว
บทเรียนที่สี่: เงินทุนธุรกิจต้องตรงกับจังหวะการผลิต
ไม่ใช่แค่มีเงินเยอะ แต่ต้องมีเงินหมุนตามรอบออเดอร์จริง
วิธีฟื้นเงินทุน: สิ่งที่คุณต้นทำจนรอด
หลังจากเกือบล้ม คุณต้นเริ่มทำ 3 เรื่องหลักเพื่อให้โรงงานกลับมาลื่นไหล
1. แยกเงินหมุนออกเป็น 3 ก้อน
เขาแบ่งเงินทุนออกเป็น:
• เงินหมุนประจำวัน (Operational Cash): ใช้จ่ายค่าของ ค่าวัตถุดิบ ค่าแรง
• เงินกันหายใจ (Safety Buffer): เผื่อกรณีลูกค้าชำระล่าช้า เครื่องจักรเสีย
• เงินลงทุนโตธุรกิจ (Growth Capital): สำหรับเพิ่มไลน์ผลิต ซื้อเครื่องจักรใหม่
การแบ่งแบบนี้ทำให้เขา ไม่ใช้เงินส่วนที่ต้องใช้สำหรับรอบผลิตถัดไป ผสมกับสัญญาออเดอร์ก็ทำให้โรงงานหมุนได้ต่อเนื่อง
2. ใช้สินเชื่อเฉพาะทางให้ตรงจังหวะ
คุณต้นเล่าว่า “ธนาคารทั่วไปอนุมัติช้า แถมต้องใช้หลักทรัพย์ ผมไม่มีเวลารอ”
เขาจึงเลือก สินเชื่อเฉพาะทางสำหรับโรงงาน ซึ่งตอบโจทย์ได้ตรงกับสิ่งที่เขาต้องการ:
• วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท
• อนุมัติภายใน 24 ชั่วโมง
• ใช้สัญญาจ้างงาน / ใบสั่งซื้อแทนหลักทรัพย์
เงินทุนแบบนี้ทำให้โรงงานสามารถ ซื้อวัตถุดิบฉุกเฉิน, รับออเดอร์ใหม่ทันที, และ ไม่สะดุดรอบการผลิต
3. จัดลำดับความสำคัญของออเดอร์และต้นทุน
คุณต้นเริ่มทำ การวางแผน Cash Flow แบบเดือนต่อเดือน
เขาคำนวณว่าออเดอร์ไหนจ่ายเร็ว จ่ายช้า และต้นทุนตรงกับออเดอร์ใดบ้าง
สิ่งนี้ช่วยให้เขา ลดความเสี่ยงจมเงินในสต็อกหรือจ่ายค่าแรงก่อนเวลาที่ควร
⸻
เคสเสริม: โรงงานอีก 2–3 แห่งที่เจ็บมาแล้วรอด
เคส 1: โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เล็ก
โรงงานนี้เจอปัญหา ลูกค้าชำระเงินล่าช้า 60 วัน แต่ต้องซื้อวัตถุดิบทันที
เจ้าของโรงงานเลือก สินเชื่อเฉพาะทาง วงเงิน 1.5 ล้านบาท
ผล: เครื่องจักรไม่หยุด ออเดอร์เสร็จตามเวลา ลูกค้าประทับใจ และได้สัญญาระยะยาว
เคส 2: โรงงานผลิตเครื่องสำอาง OEM
เคยสต็อกวัตถุดิบเกิน จำเป็นต้องใช้เงินหมุนฉุกเฉิน
ใช้สินเชื่อเฉพาะทาง 2 ล้านบาท จัดการ Cash Flow ร่วมกับ Safety Buffer
ผล: โรงงานสามารถเพิ่มกำลังผลิตและส่งสินค้าให้ลูกค้าตามสัญญาได้ทัน
เคส 3: โรงงานอิเล็กทรอนิกส์
เจอปัญหาวัตถุดิบราคาขึ้นกะทันหัน + ออเดอร์ด่วน
เจ้าของโรงงานใช้ แผนเงินหมุนแบบ 3 ก้อน + สินเชื่อเฉพาะทาง
ผล: สามารถผลิตทันตามออเดอร์และรักษากำไรไม่ตก
บทเรียนเชิงปฏิบัติที่เจ้าของโรงงานแชร์
1. เงินหมุนคือชีวิตของธุรกิจ
2. แบ่งเงินทุนให้ชัดเจน (Operational / Safety / Growth)
3. ใช้สินเชื่อเฉพาะทางให้เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่แค่กู้เงิน
4. วางแผน Cash Flow เดือนต่อเดือน และจัดลำดับความสำคัญของออเดอร์
5. สต็อกต้องสัมพันธ์กับเงินหมุน — ไม่ใช่แค่มีของมากที่สุด
สรุปบทเรียน: จากเกือบล้ม…สู่โรงงานปัง
หลังจากเรื่องราวของคุณต้นและเคสเสริมอีก 2–3 โรงงาน สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือ:
1. เงินทุนคือหัวใจของธุรกิจโรงงาน
ไม่ใช่กำไร แต่เป็น “เงินหมุน” ที่ทำให้โรงงานเดินต่อได้ทันรอบการผลิต
2. แบ่งเงินทุนอย่างชัดเจน
Operational Cash, Safety Buffer, Growth Capital — วิธีนี้ช่วยให้ไม่สะดุด และลดความเครียดเจ้าของโรงงาน
3. วางแผน Cash Flow เป็นเรื่องจำเป็น
รู้ว่าออเดอร์ไหนจ่ายช้า–เร็ว สต็อกไหนต้องใช้เงินมากที่สุด ทำให้วางเงินหมุนได้เหมาะสม
4. สินเชื่อเฉพาะทางคือเครื่องมือช่วยเพิ่มสภาพคล่อง
ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ แต่ใช้สัญญาออเดอร์ / ใบสั่งซื้อ
• วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท
• อนุมัติไว 24 ชั่วโมง
• ใช้หมุนรอบการผลิตได้ทันที
5. เรียนรู้จากความเจ็บปวดจริงของเจ้าของโรงงาน
ทุกความผิดพลาดที่ผ่านมา กลายเป็นบทเรียนให้โรงงานฟื้นตัวและเติบโตได้
ทำอย่างไรให้โรงงานของคุณไม่สะดุด
ถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แสดงว่าคุณสนใจ วิธีจัดการเงินทุนให้ธุรกิจเดินต่อได้จริง
และนี่คือคำแนะนำแบบเจ็บจริง ฟื้นจริง จากประสบการณ์เจ้าของโรงงาน:
• เช็กวงเงินหมุนในแต่ละรอบการผลิต
• แยกเงินทุนเป็น 3 ก้อนชัดเจน
• วางแผน Cash Flow เป็นรายเดือน
• ใช้สินเชื่อเฉพาะทางให้ตรงจังหวะ ไม่กู้เพราะเงินหมด
• เรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ไม่ซ้ำรอย
Soft CTA – ทำไม SearchCash ถึงช่วยเจ้าของโรงงานได้
สำหรับเจ้าของโรงงานที่ต้องการ เงินทุนหมุนทันใจ
หรือกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่ เข้าใจวงจรโรงงาน SME จริง
SearchCash คือผู้ให้บริการสินเชื่อเฉพาะทางสำหรับโรงงาน
จุดเด่นที่เจ้าของโรงงานชอบ:
วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท
อนุมัติไวภายใน 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ ใช้สัญญาจ้างงาน / ใบสั่งซื้อยื่นได้
“เพราะโรงงานที่พร้อมผลิตก่อน คือโรงงานที่ชนะตลาดก่อนเสมอ”
คลิกติดต่อผู้เชี่ยวชาญ SearchCash วันนี้
ให้ทีมงานช่วยประเมินวงเงินให้เหมาะกับรอบการผลิตของคุณทันที
ติดต่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อผู้รับเหมาได้ที่
www.searchcash-credit.com
หรือโทร 095-702-8325 เพียง 3 นาที ทีมงานจะติดต่อกลับ
7 พ.ย. 2568
10 พ.ย. 2568